Posted in ครอบครัว, นิทาน, เด็ก

นิทานจักร ๆ วงศ์ ๆ : เจ้าหญิงจิตรา

นิทานพื้นบ้านแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ เป็นนิทานที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน เพราะเรื่องราวการผจญภัยและอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของตัวละครในนิทาน ทำให้เราเหมือนได้เดินทางเข้าไปยังดินแดนพิเศษ   เมื่อผมทดลองแต่งนิทานแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ  ผมก็นึกสนุกอยากลองแต่งนิทานแนวนี้ที่มีความทันสมัยขึ้นนิดหน่อยและมีตัวละครที่แปลกไปสักนิด  ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงลองนำอัลปาก้า (สัตว์แปลก ๆ ที่เริ่มเป็นที่สนใจในช่วงเวลาที่ผมแต่งนิทาน) มารวมเข้ากับนกแก้วช่างพูด และสัตว์ในจินตนาการอย่าง “แรดไฟ”   นิทานเรื่อง “เจ้าหญิงจิตราจะเป็นอย่างไร  ลองมาอ่านกันดูนะครับ

นิทานเรื่อง เจ้าหญิงจิตรา

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งชื่อว่าจิตรา  เจ้าหญิงจิตราเป็นเจ้าหญิงที่มีปัญญาฉลาดหลักแหลม

วันหนึ่ง พระราชากับพระราชินีทรงหลงเข้าไปในป่ามืดของอสูรเจ้าน้ำตาและไม่มีวี่แววว่าจะกลับออกมาได้ เจ้าหญิงจิตราจึงวางแผนไปช่วยพ่อกับแม่โดยเลือกสัตว์ไปด้วย 3 ตัวคือ แรดไฟซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสัตว์พาหนะที่ดุดันที่สุดในโลก, ติดตามด้วยอัลปากา สัตว์หน้าตาตลก ๆ ที่ทั้งน่ารัก, ขี้อ้อนและอ่อนโยน ส่วนสัตว์ตัวสุดท้ายคือเจ้านกแก้วที่ชอบพูดคุยและสร้างสัมพันธ์กับใครต่อใครจนทั่วไปหมด

เมื่อเหล่าเสนาบดีทราบว่าเจ้าหญิงจะไปช่วยพระราชากับพระราชินี ทุก ๆ คนก็พากันชื่นชมในความกล้าหาญ แต่การเลือกสัตว์ 3 ชนิดติดตามไปด้วย โดยเฉพาะอัลปากาและนกแก้วที่ดูไร้ค่าไร้ประโยชน์ทำให้เหล่าเสนาบดีพากันส่ายหัว เสนาบดีบางคนแนะนำให้เจ้าหญิงเลือกสัตว์ที่เฉลียวฉลาดหรือดุดันเพื่อใช้พวกมันต่อสู้กับอสูรแทนการเลือกสัตว์ไร้ค่าอย่างอัลปากาและนกแก้ว แต่เจ้าหญิงไม่ยอมเปลี่ยนใจ ด้วยเหตุนี้ ใครต่อใครจึงพากันเป็นห่วงว่าเมื่อเจ้าหญิงเข้าไปในป่ามืด พระองค์อาจไม่มีโอกาสได้กลับออกมาอีก

ครั้นเมื่อถึงวันเดินทาง เจ้าหญิงทรงขี่แรดไฟโดยมีอัลปากากับนกแก้วเดินทางร่วมไปด้วย  เมื่อทั้งสี่รอนแรมไปถึงปากทางเข้าป่ามืด เจ้าหญิงทรงให้สัตว์ทุกตัวหยุดพักที่ทางเข้านั้น แล้ววางแผนเพื่อหาวิธีช่วย เหลือพระราชากับพระราชินีให้ออกจากป่ามืดให้จงได้

เจ้าหญิงทรงเริ่มแผนด้วยการมอบหมายให้นกแก้วบินเข้าไปในป่ามืดเพื่อพูดคุยสร้างสัมพันธ์กับสัตว์ต่าง ๆ ในป่า  จากนั้น ก็ให้นกแก้วสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชาและพระราชินี รวมถึงหาข้อมูลอื่น ๆ ที่อาจเป็นประโยชน์หากต้องต่อสู้กับอสูรเจ้าน้ำตา

เมื่อนกแก้วได้รับมอบหมายงานชิ้นสำคัญ มันก็รีบบินเข้าไปในป่า แล้วใช้นิสัยส่วนตัวพูดคุยกับใครต่อใครจนมันรู้ว่าอสูรเจ้าน้ำตาขังพระราชากับพระราชินีเอาไว้ที่ไหน  ทั้งยังรู้อีกว่าแม้อสูรเจ้าน้ำตาจะเป็นยักษ์ที่แข็งแรงและมีฤทธิ์มาก แต่มันไม่ใช่ยักษ์ใจร้าย  การที่มันจับพระราชากับพระราชินีเอาไว้ เป็นเพราะมันเหงาและอยากให้ทั้งสองพระองค์เล่านิทานให้ฟังทุกคืนก่อนนอน 

เมื่อเจ้าหญิงทราบข้อมูลจากนกแก้ว พระองค์จึงเข้าใจสถานการณ์อย่างทะลุปรุโปร่ง  การต่อสู้ด้วยพละกำลังคงไม่สำคัญเท่ากับการใช้ความรักความเข้าใจในการแก้ปัญหา เจ้าหญิงจึงให้แรดไฟรออยู่นอกป่ามืด  แล้วให้อัลปากาตามพระองค์ไปหาอสูรเจ้าน้ำตา โดยมีนกแก้วเป็นผู้นำทาง

ครั้นเมื่อไปถึงปากถ้ำซึ่งเป็นที่อยู่ของอสูรเจ้าน้ำตาและเป็นที่คุมขังพระราชากับพระราชินี เจ้าหญิงก็ทรงแนะนำตัวอย่างสุภาพพร้อมกับให้อัลปากาเข้าไปคลอเคลียอสูรเจ้าน้ำตาจนอสูรรู้สึกสบายใจ  จากนั้น เจ้าหญิงก็บอกกับอสูรขี้เหงาว่า “อสูรจ๊ะ จริง ๆ แล้วเธอไม่ต้องทนเหงาอยู่ในป่ามืดแบบนี้ทุกวันหรอกนะ ถ้าวันไหนเธอเหงา เธอก็ไปเที่ยวหรือค้างคืนที่เมืองของฉันก็ได้  ฉันกับเจ้าอัลปากา รวมทั้งทุก ๆ คนยินดีจะเป็นเพื่อนกับเธอนะ และพ่อแม่ของฉันก็คงยินดีจะเล่านิทานให้เธอฟังทุกวันด้วย  เธอจะเป็นอสูรเจ้าน้ำตาต่อไป หรือก้าวออกจากป่ามืดไปเป็นอสูรลั้นลาที่มีเพื่อนมากมายและมีความสุข…เรื่องนี้ก็สุดแล้วแต่เธอจะเลือกนะจ๊ะ”

0

คำพูดของเจ้าหญิงเป็นคำพูดที่มีเหตุผล  ส่วนข้อเสนอของเจ้าหญิงก็เป็นสิ่งที่อสูรเจ้าน้ำตาปรารถนา ด้วยเหตุนี้ เจ้าอสูรจึงยินดีคืนพระราชากับพระราชินีให้แก่เจ้าหญิง  พร้อมกับเริ่มเป็นอสูรลั้นลาตั้งแต่วันนั้น

เมื่อเรื่องร้าย ๆ ผ่านไป เสนาบดีต่างได้ข้อคิดว่า การทำงานให้สำเร็จไม่จำเป็นต้องใช้แต่คนเก่ง ๆ หรือคนที่แข็งแรงเป็นพิเศษมาทำงานร่วมกัน  การเลือกคนที่มีความถนัดแตกต่างกันมาทำงานร่วมกันก็สามารถทำให้งานลุล่วงไปได้แบบที่หลายคนคาดไม่ถึง

เสนาบดีต่างชื่นชมในสติปัญญาของเจ้าหญิงจิตราที่รู้จักนำธรรมชาติของสัตว์แต่ละชนิดมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม ในที่สุด เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงอย่างมีความสุข

#นิทานนำบุญ

………………………………….

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.