Posted in ครอบครัว, ความรัก, นิทาน, เด็ก

เมล็ดน้อยคอยรัก

“เมล็ดน้อยคอยรัก” เป็นนิทานก่อนนอนที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) แต่ง เพื่อให้เป็นภาคต่อและภาคจบของนิทานเรื่อง “การเดินทางของปุ๋งปุ๋ง” เมื่ออ่านนิทานทั้งสองเรื่องต่อกัน จะเหมือนเราได้เห็นมุมมองของตัวละครทั้งสองฝ่าย ซึ่งทำนิทานก่อนนอนเกี่ยวกับความรักทั้งสองเรื่องนี้มีความสมบูรณ์มากขึ้น หวังว่าคงชอบนิทานทั้งสองเรื่องนี้นะครับ

นิทานเรื่อง เมล็ดน้อยคอยรัก

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  มีเมล็ดพืชน้อย ๆ เมล็ดหนึ่ง อาศัยอยู่ในท้องทุ่งที่แสนกว้างใหญ่อย่างเดียวดาย

เมื่อไม่นานมานี้  เจ้าเมล็ดพืชได้ฟังนิทานเกี่ยวกับ “ปุ๋งปุ๋ง” ก้อนอึก้อนเล็ก ๆ ที่คิดว่าไม่มีใครในโลกต้องการมันเลย  แต่หลังจากนางฟ้ามาบอกปุ๋งปุ๋งว่า “ทุกคนเกิดมาเพื่อใครสักคนทั้งนั้น”  ปุ๋งปุ๋งจึงออกเดินทางจนได้พบกับเมล็ดพืชเมล็ดหนึ่ง ซึ่งต้องการ “ปลูกต้นรัก” ร่วมกับมัน  ในที่สุด  ปุ๋งปุ๋งก็สมหวังในความรัก

เมล็ดพืชชอบนิทานเรื่องนี้มาก  ถ้าทุกคนเกิดเพื่อใครสักคนจริง ๆ  มันก็คงมีโอกาสได้พบกับคนที่รักมันเข้าสักวัน  เมล็ดพืชอยากมีความรักเหมือนในนิทาน  มันจึงตัดสินใจร้องขอความรักจากทุกคนที่มันได้พบ

เมล็ดพืชทำตามความคิดโดยเริ่มขอความรักจากผีเสื้อทุกตัวที่บินผ่านไปมาในท้องทุ่ง   

“ฉันอยากได้ความรัก มารักฉันเถอะนะ” 

ผีเสื้อทุกตัวแปลกใจที่ได้ยินเมล็ดพืชร้องขอความรัก  ผีเสื้อทั้งหลายไม่รู้จักเมล็ดพืชเท่าไรนัก  และที่สำคัญ…เรื่องของความรักคงขอกันแบบนี้ไม่ได้  เหล่าผีเสื้อจึงบินผ่านไปโดยปล่อยให้เมล็ดพืชมองตามด้วยความผิดหวัง

ในเวลาต่อมา  เมล็ดพืช เห็นแม่วัวพาลูกวัวมากินหญ้าในท้องทุ่ง  เมล็ดพืชจึงเอ่ยปากขอความรักอีก

“ฉันอยากได้ความรัก มารักฉันเถอะนะ” 

แม่วัวกับลูกวัวมองเมล็ดพืชตาปริบ ๆ  แม่วัวมีลูกวัวให้รักอยู่แล้ว  ส่วนลูกวันก็มีแม่วัวให้รักเช่นกัน  แม่วัวกับลูกวัวจึงเดินไปหาหญ้ากินในท้องทุ่งแห่งอื่น

เมล็ดพืชเสียใจที่ไม่มีใครรับรักมันเลย  แต่มันยังไม่สิ้นหวัง  เพราะในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน  เมล็ดพืชเห็นก้อนอึ (แบบเดียวกับปุ๋งปุ๋งในนิทาน) เดินร้องเพลงมากับเด็กคนหนึ่ง  เมื่อเมล็ดพืชเห็นก้อนอึ  เมล็ดพืชจึงรีบเอ่ยปากขอความรักทันที

“ฉันอยากได้ความรัก มารักฉันเถอะนะ” 

ก้อนอึกับเด็กน้อยหยุดเดินแล้วมองมาที่เมล็ดพืชพร้อม ๆ กัน   จริง ๆ แล้วก้อนอึไม่ได้รังเกียจเมล็ดพืชเลย  แต่เพราะก้อนอึเพิ่งตกปากรับคำกับเด็กน้อยว่าจะไปเป็นปุ๋ยให้    ก้อนอึจึงไม่อาจมอบความรักให้แก่เมล็ดพืชได้

ค่ำคืนนั้น  เมล็ดพืชร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความโศกเศร้า  เสียงร้องไห้ของเมล็ดพืชที่ไม่ประสีประสาในเรื่องความรักดังไปถึงหูของนางฟ้าบนสรวงสวรรค์  เมล็ดพืชคร่ำครวญว่า 

“ไม่มีใครรักฉันเลย  ฉันคงเกิดมาโดยหาความรักไม่ได้แน่ ๆ “

นางฟ้าสงสารเมล็ดพืชจึงมาปรากฏกายให้เห็น  พร้อมกับแนะนำเมล็ดพืชว่า 

“ใคร ๆ ก็มีความรักได้ทั้งนั้น  แต่ความรักต้องใช้เวลา  ที่สำคัญ…ความรักคือการให้ ไม่ใช่การร้องขอ  ถ้าเธอมอบความรักให้แก่ผู้อื่นก่อน  อีกไม่นาน เธอก็จะได้พบกับความรักเช่นกันนะ”

เมื่อเมล็ดพืชได้ฟังคำของนางฟ้า  เมล็ดพืชก็ค่อย ๆ  คิด มันทบทวนถ้อยคำของนางฟ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า  จากนั้น  มันก็ตัดสินใจที่จะเป็นผู้ให้ความรักแทนที่จะเป็นผู้ร้องขอความรัก

เมล็ดพืชลงมือทำสิ่งที่คิดด้วยการฝังตัวเองลงไปในพื้นดิน  แล้วหยั่งรากออกมาจากเมล็ด  พร้อมกับดันต้นอ่อนให้งอกรับแสงแดด

เมื่อเวลาผ่านไป  ต้นอ่อนจากเมล็ดพืชก็เติบโตกลายเป็นต้นไม้ต้นเล็ก ๆ  ที่มีดอกสวยงามดูน่ารัก  ครั้นเมื่อผีเสื้อเห็นดอกไม้  เหล่าผีเสื้อก็พากันบินเข้ามาดูดน้ำหวานจากดอกไม้  และหลงรักดอกไม้โดยที่ไม่ต้องมีใครร้องขอ

แม้จะได้รับความรักแล้ว  แต่เมล็ดพืชยังไม่หยุดความตั้งใจในการเป็นผู้ให้ไว้เพียงเท่านั้น  มันดูดน้ำและแร่ธาตุจากพื้นดินแล้วผลักดันต้นไม้ต้นเล็ก ๆ ให้เติบโตขึ้นอีก  จนกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านแห่งความรักออกไปอย่างกว้างขวาง

ไม่นานนัก  แม่วัวก็พาลูกวัวมาหลบแดดที่ใต้ร่มเงาแสนสุขของต้นไม้ใหญ่  สัตว์ต่าง ๆ ก็ใช้เงาไม้เป็นที่พักอาศัย  เด็ก ๆ ก็พากันมาวิ่งเล่นปีนป่ายตามกิ่งก้านของต้นไม้อย่างสนุกสนาน  หนำซ้ำ  เด็กบางคนยังแอบเอาปุ๋ยมาใส่ให้ต้นไม้ที่เขารักอีกด้วย

เมล็ดพืชเมล็ดน้อย ๆ ที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินแอบดีใจอยู่เงียบ ๆ

ในที่สุด  เมล็ดพืชอย่างมันก็ได้รับความรักตอบกลับมามากมายอย่างที่คาดไม่ถึง  ซึ่งทั้งหมดเริ่มต้นจากการตัดสินใจเป็นผู้ให้ความรักแทนที่จะเป็นผู้ร้องขอความรักนั่นเอง

#นิทานนำบุญ

…………………………

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.