Posted in ครอบครัว, นิทาน, เด็ก

โรงเรียนเวทมนตร์

นับตั้งแต่ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” กลายเป็นหนังสือยอดนิยมสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ทั่วโลก  เรื่องราวลึกลับเกี่ยวกับโลกเวทมนตร์ก็กลายเป็นที่สนใจของผู้คนอีกครั้ง  ในส่วนของการแต่งนิทาน  ผมเองได้ยินชื่อเสียงของแฮร์รี่ พอตเตอร์ มาตั้งแต่ตอนออกหนังสือเล่มแรก  (ตอนนั้น ผมเป็นนักแต่งนิทานแล้ว)  แต่เพราะกลัวว่าตัวเองจะได้รับอิทธิพลจากวรรณกรรมชื่อดังเรื่องนี้  ผมจึงตัดสินใจไม่อ่านหนังสือ (และไม่ดูภาพยนตร์) เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ เลย  เพื่อให้โลกเวทมนตร์ของผม เป็นโลกเวทมนตร์ในแบบ “นิทานนำบุญ” จริง ๆ  โดยไม่เจือปนด้วยบรรยากาศโลกเวทมนตร์ของคนอื่น (แต่คงห้ามแรงบันดาลใจจากนิทานในวัยเด็กไม่ได้)

นิทานเรื่อง โรงเรียนเวทมนตร์ เป็นนิทานที่ผมแต่งในช่วงปีท้าย ๆ ของการเป็นนักแต่งนิทานในนิตยสารขวัญเรือน  นิทานเรื่องนี้เป็นการแต่งนิทานที่มีบรรยากาศมึดมนหน่อย ๆ (ภาษาวัยรุ่นเรียกว่าแนว DARK)  แต่ด้วยความเป็นนิทานที่เกิดในดินแดนเวทมนตร์ ผมจึงหวังว่า มันน่าจะเข้ากับนิทานแนวนี้ได้ดี   ขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ

นิทานเรื่อง โรงเรียนเวทมนตร์

กาลครั้งหนึ่ง ณ โรงเรียนประถมมนตร์วิเศษ มีเด็ก ๆ ที่สนใจการใช้เวทมนตร์มาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้เต็มไปหมด ในบรรดานักเรียนทั้งหลาย มีเด็กผู้หญิงสองคนซึ่งเรียนอยู่ในชั้นประถม 6 เป็นเด็กที่ทำคะแนนสอบได้สูงที่สุดและน่าจะได้ทุนไปเรียนต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนฝึกหัดนางฟ้าหรือโรงเรียนเวทมนตร์ชั้นสูง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เด็กทุกคนใฝ่ฝัน

เด็กผู้หญิงทั้งสองคนเรียนหนังสือด้วยกันมานาน เด็กคนแรกชื่อ ’สายรุ้ง’ ส่วนอีกคนชื่อ ‘ม่านหมอก’ สายรุ้งเป็นคนอ่อนโยนและมีจิตใจดี ส่วนม่านหมอกเป็นเด็กก้าวร้าวแถมยังชอบดูถูกผู้อื่น บางครั้ง…ม่านหมอกยังแอบนินทาคุณครูและแกล้งนักเรียนที่มีเวทมนตร์ด้อยกว่าอีกด้วยสายรุ้งไม่อยากให้เพื่อนเป็นเด็กไม่ดี แต่ทุกครั้งที่เธอบอกกล่าว ม่านหมอกก็มักจะตอบกลับว่า “อย่ามาสั่งสอนชั้นนะ เธอเป็นแค่เพื่อน…ไมใช่ครู ชั้นไม่ฟังเธอหรอก”

นอกจากสายรุ้งจะห่วงม่านหมอกแล้ว คุณครูที่เฝ้าดูม่านหมอกอยู่ห่าง ๆ ก็อดห่วงลูกศิษย์ไม่ได้ เมื่อคุณครูเรียกม่านหมอกไปตักเตือน ม่านหมอกกลับเถียงว่า “ครูไม่ต้องมาห่วงหนูหรอก หนูเรียนเก่ง สอบได้คะแนนดี ครูไปห่วงเด็กคนอื่นดีกว่า พ่อแม่หนูยังไม่เห็นจะว่าอะไรหนูเลย”

เมื่อคุณครูเห็นลูกศิษย์ก้าวร้าวเกินกว่าจะกล่อมเกลา คุณครูจึงขอให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยตักเตือนลูกสาวก่อนที่จะสายเกินแก้  แต่เมื่อคุณพ่อคุณแม่เรียกม่านหมอกมาสอน ม่านหมอกกลับเถียงคุณพ่อคุณแม่ว่า “หนูทำคะแนนสอบได้ดีที่สุดในชั้น ปีหน้าก็คงได้ทุนไปเรียนต่อที่โรงเรียนนางฟ้า พ่อกับแม่น่าจะขอบใจหนูมากกว่ามาด่าว่าหนูนะ” เมื่อพูดเสร็จ ม่านหมอกก็เดินกระแทกเท้าปึงปังขึ้นห้องไปโดยปล่อยให้คุณพ่อคุณแม่ถอนใจในความก้าวร้าวของลูกสาว

ตลอดเวลา ทุกคนในโรงเรียนต่างเบื่อหน่ายนิสัยของม่านหมอกและสงสารสายรุ้งที่ถูกม่านหมอกตามติดตลอดเวลาไม่ว่าเธอจะไปไหน  ทุกคนต่างสงสัยว่าทำไมคนอย่างม่านหมอกที่ดูไม่อยากเป็นเพื่อนกับใครถึงชอบอยู่ใกล้ ๆ กับสายรุ้งนัก

เมื่อเข้าสู่ช่วงสอบปลายภาค ความลับทั้งหมดก็คลี่คลาย โดยคุณครูเป็นผู้ค้นพบปริศนาที่ทุกคนสงสัย

วันนั้น..ในขณะที่คุณครูหันหลังให้นักเรียนซึ่งกำลังนั่งทำข้อสอบอยู่ คุณครูมองเงาสะท้อนจากกระจกที่ติดอยู่ตรงกระดานดำแล้วเห็นม่านหมอกชะโงกดูกระดาษคำตอบของสายรุ้งที่ตั้งใจทำข้อสอบจนไม่รู้ว่าถูกเพื่อนลอก ครั้นเมื่อคุณครูหันกลับไปดูชัด ๆ  ม่านหมอกก็รีบตั้งท่าทำข้อสอบตามปกติ พร้อมกับทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แม้คุณครูจะจับไม่ได้คาหนังคาเขา แต่คุณครูก็รู้แล้วว่าเด็กที่ไม่ขยันเรียนอย่างม่านหมอกมีคะแนนสอบสูงลิ่วได้อย่างไรและทำไมจึงคบหากับสายรุ้งทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรเหมือนกันเลยสักอย่าง

เมื่อการสอบผ่านไป ผลการสอบปรากฏว่า ม่านหมอกและสายรุ้งสอบได้คะแนนเป็นที่ 1 ทั้งคู่ ทำให้ทางโรงเรียนต้องมอบทุนเรียนต่อชั้นมัธยมให้นักเรียนทั้งสองคนตามกฏที่วางเอาไว้

สายรุ้งดีใจที่ตัวเองและเพื่อนได้รับทุน ส่วนม่านหมอกดีใจที่จะได้ไปเรียนชั้นมัธยมเพื่อเป็นนางฟ้าสาวพราวเสน่ห์สมใจนึก 

ในวันรับทุน คุณครูเชิญคุณพ่อคุณแม่ของนักเรียนทั้งสองคนมาพูดคุยและทำสัญญาส่งตัวเข้าโรงเรียนประจำอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ โดยสายรุ้งกับม่านหมอกต้องลงชื่อยืนยันด้วย สายรุ้งตั้งใจอ่านสัญญาและทราบว่าตนเองจะต้องเข้าเรียนในโรงเรียนฝึกหัดนางฟ้าซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออก ส่วนม่านหมอกไม่ใส่ใจอ่านสัญญาใด ๆ เพราะมัวแต่ฝันหวานถึงการได้เป็นนางฟ้าแสนสวย

จนกระทั่งเวลาส่งตัวนักเรียนมาถึง มีรถม้าเวทมนตร์ 2 คันและคุณครูจากแต่ละโรงเรียนมารับตัวนักเรียนใหม่ตามเวลาที่นัดหมาย

สายรุ้งได้นั่งรถม้าสีขาวประดับด้วยดอกไม้หลากสีโดยมีคุณครูนางฟ้าท่าทางใจดีมารับตัวไป ส่วนม่านหมอกจะต้องนั่งรถม้าสีดำที่ประดับประดาด้วยแมงมุม, ค้างคาวและสัตว์ที่น่าขยะแขยงโดยมีคุณครูแม่มดท่าทางร้ายกาจเป็นคนมารับตัว

ม่านหมอกตกใจมากเมื่อรู้ว่าโรงเรียนที่ตนเองต้องไปเรียนวิชาเวทมนตร์ชั้นสูงคือโรงเรียนแม่มด เธอพูดไม่ออกเพราะเธอลงชื่อในหนังสือสัญญาไปแล้ว จึงขัดขืนไม่ไปโรงเรียนใหม่ไม่ได้  

คุณพ่อคุณแม่รวมทั้งคุณครูทุกคนได้แต่ส่งยิ้มให้ม่านหมอกพร้อมกับบอกเด็กผู้หญิงที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นนางฟ้าว่า “บางทีโรงเรียนแม่มดอาจจะเหมาะสมที่สุดสำหรับหนูแล้วนะจ๊ะ”

หลังจากนั้น คุณครูแม่มดก็พาม่านหมอกที่พยายามขัดขืนขึ้นรถม้าสีดำ แล้วเหาะไปยังโรงเรียนแม่มดซึ่งเต็มไปด้วยแม่มดฝึกหัดที่ร้ายกาจและเรื่องน่ากลัวที่ชวนให้ขนหัวลุก.

#นิทานนำบุญ

————————————————————————————–

One thought on “โรงเรียนเวทมนตร์

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.