Posted in ครอบครัว, นิทาน, เด็ก

สามคนร้องไห้

นิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นเรื่อง “สามคนร้องไห้” เป็นนิทานญี่ปุ่นสั้น ๆ แนวชวนยิ้ม ในแบบนิทานตลกสมัยโบราณ (ซึ่งคนอ่านยุคนี้อาจยิ้มหรือไม่ยิ้มก็ได้) ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) ได้อ่านนิทานเรื่องนี้ รู้สึกว่าเป็นนิทานที่เข้าใจได้ไม่ยาก แถมทำให้อมยิ้มได้นิดหน่อย ผมจึงนำมาเรียบเรียงให้ได้อ่านกัน โดยพยายามคงตามต้นฉบับนิทานดั้งเดิมเอาไว้ (ไม่ใส่มุกตลกเพิ่ม) หวังว่าผู้อ่านจะชอบนิทานเรื่องนี้กันนะครับ

นิทานญี่ปุ่นเรื่อง สามคนร้องไห้

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีคุณยายคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ตามลำพัง เพราะลูกชายคนเดียวไปทำงานอยู่ในเมืองที่ห่างไกล

วันหนึ่ง มีจดหมายจากลูกชายของคุณยายส่งมา คุณยายดีใจมาก แต่เพราะคุณยายไม่รู้หนังสือ จึงอ่านจดหมายไม่ได้ พอดีก็ซามูไรคนหนึ่งเดินผ่านมา คุณยายจึงขอร้องให้ซามูไรอ่านจดหมายให้ฟ้ง

“นี่ ๆ ท่านซามูไร ข้าได้รับจดหมายจากลูกชาย แต่ข้าไม่รู้หนังสือ ช่วยอ่านจดหมายให้ข้าทีเถอะ”

คุณยายยื่นจดหมายให้ซามูไร ซามูไรก้มมองจดหมาย สักครู่หนึ่ง เขาก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา

คุณยายตกใจจึงรีบถามซามูไรว่า “มีข่าวร้ายเขียนไว้เหรอ ไม่ว่าเรื่องอะไรข้าก็รับได้ กรุณาอ่านให้ข้าฟังด้วย”

แต่ซามูไรเอาแต่ร้องไห้โดยไม่ยอมปริปากพูด

“มันต้องเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากแน่ ๆ” คุณยายคิด จากนั้น คุณยายก็เริ่มร้องไห้บ้าง

ในขณะนั้นเอง มีคนขายหม้อดินคนหนึ่งเดินผ่านมา เมื่อคนขายหม้อดินเห็นซามูไรและคุณยายกำลังร้องไห้ เขาจึงถามคุณยายว่า “ท่านทั้งสองเป็นอะไรไปเหรอ”

ซามูไรกับคุณยายไม่ตอบ คนขายหม้อดินเห็นจดหมาย จึงหยิบมาดู จากนั้น เขาก็เริ่มร้องไห้

ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างแปลกใจที่่เห็นคนทั้งสามร้องไห้ ผู้คนจึงพากันมามุง แล้วถามไถ่ว่า “อย่าเอาแต่ร้องไห้สิ เกิดอะไรขึ้นเหรอ ถ้าลำบากหรือติดขัดตรงไหน พวกเราจะช่วยเอง”

คนขายหม้อดินจึงพูดว่า “เมื่อปีก่อน ข้าไปขายหม้อดิน ระหว่างทาง ข้าหกล้มทำให้หม้อดินแตกหมด ข้าเสียใจมาก แต่ก็ยุ่งมากจนลืมร้องไห้ พอมาเห็นสองคนนี้ร้องไห้ ข้าจึงนึกขึ้นได้ถึงความเสียใจที่ข้าลืมไปแล้ว ดังนั้น ข้าก็เลยร้องไห้ยังไงล่ะ”

“อะไรนะ ร้องไห้ด้วยเหตุแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ” ผู้คนมองคนขายหม้อดินด้วยความระอาใจ จากนั้น พวกเขาก็ถามคุณยายว่า “แล้วคุณยายร้องไห้ทำไม”

คุณยายกลั้นน้ำตา แล้วตอบไปว่า “ในตอนแรก ข้าได้จดหมายจากลูกชายที่ไปทำงานในที่ที่ไกลมาก แต่ข้าอ่านหนังสือไม่ออก เลยให้ซามูไรท่านนี้อ่านให้ แต่พอซามูไรท่านนี้ก้มมองจดหมายได้ครู่เดียว ท่านซามูไรก็ร้องไห้ ข่าวคราวในจดหมายต้องเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ ๆ พอคิดแบบนั้น ข้าก็เลยกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่”

“อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง” ผู้คนทั้งหลายเพิ่งเข้าใจ จากนั้น พวกเขาก็พูดกับซามูไรว่า “ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ท่านซามูไรช่วยหยุดร้องไห้เถิด แล้วบอกคุณยายกับพวกเราให้รู้หน่อยว่า ในจดหมายเขาเขียนว่าอะไรบ้าง”

ซามูไรปาดน้ำตาแล้วเงยหน้ามองมายังทุก ๆ คน จากนั้น เขาก็บอกว่า “ที่ข้าร้องไห้ ไม่ได้เกี่ยวกับข่าวคราวในจดหมาย แต่พอดีข้านึกถึงสมัยที่ข้ายังเด็ก ตอนเด็ก…ข้ายังอ่านหนังสือไม่ได้เพราะเป็นคนที่ไม่ขยันเรียน ตอนนั้นข้าจำได้ว่า..ข้าเจ็บใจที่ตัวเองอ่านหนังสือไม่ได้ พอนึกถึงความหลังก่อนที่จะมาขยันเรียนหนังสือ ข้าก็เลยร้องไห้ออกมา”

“อะไรนะ ร้องไห้ด้วยเหตุแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ” ทุกคนทำหน้าระอาใจ

ซามูไรหัวเราะแหะ ๆ จากนั้น เขาก็อ่านจดหมายของลูกชายคุณยายให้คุณยายฟังว่า “ลูกสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง ใกล้จะได้กลับบ้านในเร็ววันนี้แล้ว แล้วจะหาของไปฝากแม่ด้วยนะ”

ในที่สุด เรื่องราวก็จบลงด้วยดี

#นิทานพื้นบ้านญี่ปุ่น

………………..

2 thoughts on “สามคนร้องไห้

  1. สวัสดีครับ พี่นำบุญ ลูกชายของผม ชื่อแองกู๊ด ชอบนิทานของพี่นำบุญ มากๆครับ เลยขอให้ผม comment มาขอบคุณ พี่นำบุญครับ ขอบคุณสำหรับนิทาน สนุกๆครับ

    Liked by 1 person

    1. สวัสดีครับคุณพ่อ Pakhon ก่อนอื่น ผมต้องขอขอบคุณคุณพ่อที่ให้เกียรติเลือกนิทานจากเว็บไซต์นิทานนำบุญ เป็นนิทานสำหรับแองกู๊ดนะครับ ผมไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกอย่างไร แต่ขอบคุณจากใจเลยครับ ส่วนข้อความต่อไปนี้ ขอฝากถึงแองกู๊ดนะครับ “สวัสดีครับน้องแองกู๊ดคนดี พี่นำบุญดีใจมาก ๆ เลยครับ ที่ได้รู้ว่าน้องแองกู๊ดชอบนิทานที่พี่แต่ง หากสักวันหนึ่งเรามีโอกาสได้พบกัน น้องแองกู๊ดเข้ามาทักทายพี่นำบุญได้เลยนะครับ พี่จะดีใจที่สุดเลย ส่วนในช่วงเวลาที่เรายังไม่ได้พบกัน พี่อยากให้น้องแองกู๊ดเป็นเด็กดี ใช้ช่วงเวลาวัยเด็กอย่างมีความสุข กอดหรือหอมคุณพ่อเพื่อส่งพลังให้คุณพ่อเยอะ ๆ ท่านจะได้มีแรงเล่านิทานให้น้องแองกู๊ดฟังบ่อย ๆ แต่ถ้าวันไหนคุณพ่อเหนื่อย ก็ลองสมมติให้คุณพ่อเป็นเด็ก แล้วแองกู๊ดสลับเป็นคนเล่านิทานกล่อมคุณพ่อบ้าง พี่นำบุญคิดว่าคงสนุกดีนะครับ แต่ถ้าเล่าไม่ไหวเพราะง่วงนอน ลองกอดคุณพ่อ แล้วหลับตา เล่านิทานในใจให้กันฟัง พี่นำบุญเชื่อว่า ทั้งคุณพ่อและน้องแองกู๊ดต้องหลับฝันดีแน่ ๆ หวังว่าสักวันเราจะได้พบกันนะครับ….พี่นำบุญเองครับ”

      Like

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.