Posted in ครอบครัว, นิทาน, เด็ก

เด็กกำพร้ากับพ่อค้าจอมโกง

ตอนที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) ยังเป็นเด็ก  แม่เคยเชิญครูสอนภาษาจีนมาสอนภาษาให้ที่บ้าน  การเรียนภาษาเป็นเรื่องยาก  คุณครูจึงมักนำนิทานมาเล่าให้ผมกับพี่น้องฟังแก้เบื่อ  ในบรรดานิทานทั้งหมด  มีนิทานโบราณเรื่องหนึ่งเป็นนิทานที่สอดแทรกความเป็น “นิทานคณิตศาสตร์สำหรับเด็กประถมเอาไว้”  นิทานเรื่องนั้นทำให้เด็กประถมอย่างผมรู้สึกว่า คณิตศาสตร์เป็นเรื่องสนุกมาก  เมื่อผมโตและได้กลายมาเป็นนักแต่งนิทานที่นิตยสารขวัญเรือน  ผมจึงตั้งใจนำความประทับใจจากนิทานเรื่องดังกล่าว มาแต่งเป็นนิทานเรื่องใหม่ เพื่อแสดงความเคารพต่อนิทานโบราณที่ตัวเองประทับใจและแต่งนิทานเพื่อให้เด็กรู้สึกดีกับวิชาคณิตศาสตร์ รวมถึงการบวกลบคูณหาร  หวังว่าทุกท่านจะชอบนิทานคณิตศาสตร์เรื่องนี้นะครับ

นิทานเรื่อง  เด็กกำพร้ากับพ่อค้าจอมโกง

กาลครั้งหนึ่ง มีพ่อค้าเจ้าเล่ห์ผู้หนึ่งนามว่า ‘มาซัวร์’ มาซัวร์ทำงานค้าขายกับวังหลวงมานานจนมีฐานะมั่งคั่งขึ้นทุกวัน แม้เขาจะมีเงินทองมากมาย แต่เขากลับมีนิสัยชอบเอาเปรียบชาวบ้านที่หาของมขายให้เขา โดยมาซัวร์มักไม่ยอมจ่ายเงินตามที่ตกลงกันไว้เสมอ ๆ ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านจึงพากันระอาใจและหลีกเลี่ยงไม่อยากทำการค้ากับพ่อค้าจอมโกงอย่างมาซัวร์

วันหนึ่ง มาซัวร์มีโอกาสได้เงินก้อนใหญ่ เพราะพระราชินีซึ่งตั้งครรภ์ทรงแพ้ท้องและอยากกินผลไม้ที่เรียกว่า ‘ผลหยาดน้ำผึ้ง’ แต่ผลหยาดน้ำผึ้งเป็นผลไม้ที่ขึ้นอยู่ในเหวลึกซึ่งเต็มไปด้วยอันตราย พระราชาจึงตั้งรางวัลให้ผู้ที่นำผลหยาดน้ำผึ้งมาถวายถึงผลละ 1,000 เหรียญทอง แต่มีเงื่อนไขคือต้องหาผลหยาดน้ำผึ้งมาถวายให้ได้อย่างน้อย 20 ผล

เมื่อมาซัวร์ทราบความประสงค์ของพระราชา เขาก็ไปประกาศให้ชาวบ้านหาผลหยาดน้ำผึ้งมาให้ โดยตั้งค่าตอบแทนไว้เพียง 10 เหรียญทองต่อ 1 ผลเท่านั้น (คือตั้งใจเอากำไรมากถึงผลละ 990 เหรียญทอง)

แม้ชาวบ้านจะต้องการเงิน แต่การเก็บผลหยาดน้ำผึ้งในหุบเหวมีอันตรายมาก แถมพวกเขายังกลัวถูกมาซัวร์โกงอีก ชาวบ้านจึงไม่ยอมรับงานนี้ เว้นแต่เพียงเด็กกำพร้า 20 คนจากบ้านเด็กกำพร้าที่อยากได้เงินไปรักษา ‘คุณแม่ผู้ดูแลบ้าน’ ซึ่งกำลังป่วยหนัก พวกเขาจึงอาสาไปหาผลหยาดน้ำผึ้งมาขายให้

เด็กกำพร้าทั้ง 20 คนเดินทางขึ้นเขาแล้วปีนลงไปในหุบเหวเพื่อหาผลหยาดน้ำผึ้งด้วยความมุ่งมั่น แม้เด็ก ๆ เกือบจะพลาดพลั้งได้รับอันตรายอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ความดีก็คุ้มครองพวกเขาจนทำให้พวกเขาหาผลหยาดน้ำผึ้งได้ครบ 20 ผลตามที่ตั้งใจเอาไว้

ครั้นเมื่อเด็ก ๆ นำผลหยาดน้ำผึ้งมาขายให้แก่มาซัวร์  แทนที่พ่อค้าเจ้าเล่ห์จะมอบเงินให้เด็ก ๆ ตามที่ตกลง เขากลับติผลหยาดน้ำผึ้งว่ามีรอยช้ำ แล้วต่อรองว่าจะจ่ายเงินให้เพียงผลละ 1 เหรียญทอง

เด็ก ๆ ไม่พอใจที่มาซัวร์ไม่รักษาคำพูด พวกเขาคิดว่ามาซัวร์ใจร้ายมากที่เอาเปรียบได้แม้กระทั่งเด็ก ๆ  เด็กผู้ชายที่โตที่สุดในกลุ่มจึงคิดแผนการแก้เผ็ดพ่อค้าร้อยเล่ห์ผู้นี้ 

เด็กน้อยเจ้าปัญญาเริ่มแผนของเขาด้วยการร่างสัญญาว่า เด็กทุกคนขอขายผลหยาดน้ำผึ้งให้มาซัวร์ในราคาพิเศษ (เพราะกลัวผลไม้จะเน่าไปเปล่า ๆ)  โดยเด็ก ๆ ขอขายผลหยาดน้ำผึ้งผลแรกในราคาเพียง 1 เหรียญทอง แล้วเพิ่มราคาขึ้นทีละ 2 เท่าจนครบทั้ง 20 ผล แต่มีเงื่อนไขคือมาซัวร์จะต้องรับซื้อผลไม้แบบเหมาทั้งหมด..จะซื้อแค่บางผลไม่ได้

เมื่อมาซัวร์อ่านใบสัญญาและเห็นราคาที่เด็ก ๆ เสนอให้เขา มาซัวร์ก็ยิ้มด้วยความดีใจ เพราะเท่ากับว่าเขาจะได้เงินจากพระราชาเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้งผลละ 1000 เหรียญทอง แต่เขาต้องจ่ายเงินค่าผลหยาดน้ำผึ้งผลแรกให้เด็ก ๆ แค่ 1 เหรียญทองเท่านั้น แม้ผลหยาดน้ำผึ้งผลต่อ ๆ ไปจะมีราคาเพิ่มขึ้นผลละ 2 เท่า แต่เขาก็น่าจะยังได้กำไรมหาศาลอยู่ดี ด้วยเหตุนี้ มาซัวร์จึงรีบลงลายมือชื่อในใบสัญญาก่อนที่เด็ก ๆ จะเปลี่ยนใจ

หลังจากที่มาซัวร์ทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว  เด็กกำพร้าทั้ง 20 คนก็ถือผลหยาดน้ำผึ้งเรียงแถวมาขายให้มาซัวร์ทีละคน

เด็กคนที่ 1 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 1 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 2 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 2 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 3 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 4 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 4 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 8 เหรียญทอง     

เด็กคนที่ 5 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 16 เหรียญทอง

 เด็กคนที่ 6 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 32 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 7 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 64 เหรียญทอง

 เด็กคนที่ 8 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 128 เหรียญทอง

 เด็กคนที่ 9 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 256 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 10 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 512 เหรียญทอง

 เด็กคนที่ 11 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 1,024 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 12 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 2,048 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 13 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 4,096 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 14 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 8,192 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 15 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 16,384 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 16 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 32,768 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 17 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 65,536 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 18 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 131,072 เหรียญทอง        

เด็กคนที่ 19 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 262,144 เหรียญทอง

เด็กคนที่ 20 ได้เงินเป็นค่าผลหยาดน้ำผึ้ง 524,288 เหรียญทอง

ถ้ามาซัวร์นำผลหยาดน้ำผึ้งทั้ง 20 ผลไปขายให้แก่พระราชา เขาจะได้เงินค่าผลหยาดน้ำผึ้งรวม 20,000 เหรียญทอง แต่เมื่อเขาจ่ายเงินให้เด็ก ๆ เพิ่มขึ้นทีละสองเท่า เขากลับต้องจ่ายเงินมากกว่า 524,288 เหรียญทอง เมื่อมาซัวร์รู้ตัวว่าเขาต้องขาดทุน เขาก็พยายามจะโยกโย้ไม่ยอมจ่ายเงินตามที่ตกลงกันไว้ 

เมื่อเด็ก ๆ เห็นมาซัวร์ทำทีจะบิดพริ้ว เด็ก ๆ จึงขู่มาซัวร์ว่า หากมาซัวร์ไม่ยอมจ่ายเงิน พวกเขาจะนำใบสัญญาไปร้องเรียนต่อพระราชาผู้ทรงความยุติธรรม ซึ่งหากมีหลักฐานชัดเจนเช่นนี้  พระราชาก็คงไล่พ่อค้าขี้โกงไม่ให้ค้าขายกับวังหลวงต่อไปอีกเป็นแน่

มาซัวร์จำใจต้องจ่ายเงินให้แก่เด็ก ๆ เพราะเขาไม่อยากหมดหนทางทำมาหากิน ซึ่งเงินที่เขาต้องจ่ายก็คือเงินทั้งหมดที่เขาเอาเปรียบผู้คนมาโดยตลอด

ในที่สุด  เด็กกำพร้าก็มอบบทเรียนให้พ่อค้าจอมโกงได้อย่างสาสม และพวกเขาก็มีเงินไปรักษา ‘คุณแม่ผู้ดูแลบ้าน’ ตามที่พวกเขาตั้งใจเอาไว้    

#นิทานนำบุญ

…………………..

5 thoughts on “เด็กกำพร้ากับพ่อค้าจอมโกง

  1. นักเรียนชอบมากครับ ในระหว่างนิทานให้เด็กมีส่วนร่วมด้วย สนุกสนานมากมายครับ

    Like

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.