ในสมัยก่อน (เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา) หนังสือพิมพ์ไทยรัฐถือว่าเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย การมีข่าวลงในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐจึงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องที่นักเขียนนิทานธรรมดา ๆ อย่างผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) ไม่เคยคาดคิด
จนกระทั่งวันหนึ่ง มีเพื่อนส่งข่าวมาบอกผมว่า มีบทความจากคอลัมน์นิสต์ชื่อดัง “ลม เปลี่ยนทิศ” เขียนถึงหนังสือนิทานของผมลงในไทยรัฐ
วันนั้น ผมตื่นเต้นและอยากเห็นคอลัมน์นั้นมาก ซึ่งเมื่อได้อ่าน ก็รู้สึกยินดีที่คอลัมนิสต์รุ่นใหญ่ ให้เกียรติเขียนถึงงานที่ผมตั้งใจทำมากที่สุดชิ้นหนึ่งในชีวิต และผมก็ยิ่งดีใจมากขึ้นไปอีก เมื่อได้เห็นว่า หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับนั้น เป็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2556 แน่นอนว่า ผมซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นเก็บไว้เป็นมงคลแห่งชีวิต และเก็บรักษามาจนถึงทุกวันนี้


ในเวลาต่อมา ผมได้เข้าเรียนปริญญาโท ด้านนิเทศศาสตร์ดิจิทัลที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งในช่วงเวลานั้น ผมปฏิเสธการออกสื่อและการให้สัมภาษณ์ในสื่อต่าง ๆ มาตลอด จู่ ๆ เพื่อนร่วมชั้นเรียนคนหนึ่งซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ของไทยรัฐ ได้ขอสัมภาษณ์ผมลงไทยรัฐในฐานะที่เป็นนักแต่งนิทาน โดยส่วนตัวผมตั้งใจที่จะไม่ออกสื่อ (หากไม่จำเป็นจริงๆ) แต่ในช่วงนั้น ผมคิดว่า เพื่อนอาจติดขัดเรื่องการหาคนสัมภาษณ์เพื่อเขียนคอลัมน์ การให้เพื่อนสัมภาษณ์อาจเป็นการช่วยให้เขาได้ชิ้นงานไปส่งทางบรรณาธิการ ซึ่งผมถือว่าเป็นการช่วยเพื่อน
แต่เมื่อบทความสัมภาษณ์ได้ตีพิมพ์ ผมก็ตกใจ เพราะคอลัมน์นี้เป็นคอลัมน์ที่ได้ลงหน้า 1 ของไทยรัฐ และให้ไปอ่านต่อที่หน้า 3 ดังนั้น จึงถือว่าเป็นคอลัมน์สัมภาษณ์ที่จริงจังมาก และกลายเป็นความทรงจำอีกเรื่องในการได้ปรากฏตัวในสื่อของผม

ถ้าท่านใดสนใจอยากอ่านบทความสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับนั้น ยังสามารถอ่านได้ทางไทยรัฐออนไลน์ ตามลิงค์ต่อไปนี้นะครับ ขอบคุณครับ
https://www.thairath.co.th/news/local/1115857
