นิทานเรื่อง “หนูน้อยหัวใจสีชมพู” เป็นนิทานก่อนนอนที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) แต่งขึ้นเพื่อให้แง่มุมเกี่ยวกับการประกวดและการแข่งขันแก่เด็ก ๆ (เพราะเมืองไทยมีการประกวดมากเหลือเกิน) การมีทัศนคติที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการประกวดอาจสร้างปมให้เกิดขึ้นในใจของเด็กได้ ดังนั้น นิทานเรื่องนี้จึงน่าจะเป็นประโยชน์ และสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี

นิทานก่อนนอนเรื่อง หนูน้อยหัวใจสีชมพู
กาลครั้งหนึ่ง ณ เมืองดอกไม้งาม มีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเป็นเด็กที่ชอบสีชมพูมาก
ทุกวัน เธอจะใส่เสื้อสีชมพู, กระโปรงสีชมพู, หมวกสีชมพู แล้วถือกระเป๋าสีชมพูไปเดินเล่นในสวนดอกไม้สีชมพู นอกจากนี้ แก้มของเธอยังมีสีชมพูอีกด้วย ใครต่อใครจึงมักเรียกเด็กน้องคนนี้ว่า “หนูน้อยหัวใจสีชมพู”
อยู่มาวันหนึ่ง หนูน้อยหัวใจสีชมพูทราบข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันจัดดอกไม้ประจำปี เด็กน้อยอยากลองร่วมประกวดจัดดอกไม้ดูบ้าง เธอจึงเข้าห้องสมุดแล้วศึกษาวิธีจัดดอกไม้พร้อมกับอ่านข้อมูลเกี่ยวกับดอกไม้ชนิดต่าง ๆ จากตำรานับร้อย ๆ เล่ม
เมื่อเพื่อน ๆ เห็นหนูน้อยหัวใจสีชมพูคิดจะเข้าแข่งขันในงานจัดดอกไม้ประจำปี เด็กทุกคนก็พากันเตือนเพื่อนตัวน้อยว่า ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางเอาชนะผู้ใหญ่และพวกนักจัดดอกไม้มืออาชีพได้แน่ ๆ
แม้ใคร ๆ จะบอกว่าเธอมีโอกาสแพ้มากกว่าชนะ แต่เด็กน้อยหัวใจสีชมพูก็ไม่ยอมล้มเลิกความคิด เธอยังคงอ่านหนังสือเกี่ยวกับวิธีจัดดอกไม้ต่อไป แล้วทดลองจัดดอกไม้จนชำนาญมากขึ้นเรื่อย ๆ
ครั้นเมื่อวันประกวดมาถึง ผู้คนที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันก็นำดอกไม้และข้าวของต่าง ๆ ไปยังลานประกวด บางคนขนดอกไม้มาเป็นจำนวนมาก บางคนเน้นของตกแต่งมากกว่าดอกไม้
เมื่อกรรมการให้สัญญาณเริ่มการแข่งขัน ผู้เข้าประกวดทุกคนก็ลงมือจัดดอกไม้อย่างไม่รอช้า เด็กหญิงตัวน้อยเองก็เร่งมือจัดดอกไม้ด้วยเช่นกัน เธอนำดอกไม้ทั้งหมดซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นดอกไม้สีชมพูมาจัดเรียงในตะกร้าหวาย โดยที่ก้นตะกร้าปูด้วยผ้าสีชมพูลายกระจุ๋มกระจิ๋ม เด็กน้อยตกแต่งตะกร้าดอกไม้ด้วยกิ่งไม้ซึ่งมีใบสีเขียวอ่อน แล้วประดับประดาตะกร้าด้วยผ้าลูกไม้สีชมพูที่ผูกเป็นโบขนาดกระจิ๋วหลิวดูน่ารัก
เมื่อหมดเวลา ผู้เข้าประกวดก็นำผลงานมาวางให้กรรมการและผู้ชมได้พิจารณา ผู้ชมงานหลาย ๆ คนชอบตะกร้าดอกไม้ของหนูน้อยหัวใจสีชมพูมาก เพราะมันดูน่ารักสมกับคนที่สร้างสรรค์มันขึ้นมา ในขณะเดียวกัน ผู้ชมงานก็ทึ่งกับการจัดดอกไม้ของผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ด้วย
หลังจากที่กรรมการดูผลงานการจัดดอกไม้ทั้งหมดและหารือกันแล้ว กรรมการก็ประกาศรางวัลโดยเริ่มจากรางวัลที่ 3 มายังรางวัลที่ 2 แล้วจึงค่อยประกาศผลรางวัลที่ 1
ผู้ได้รางวัลที่ 3 คือคุณลุงนักจัดดอกไม้ที่นำดอกไม้เมืองหนาวและเครื่องประดับจำพวกพลอยและไข่มุกมาประดับประดาจนแจกันดอกไม้ดูมีค่ามีราคาทำให้ผู้ที่ได้ชมถึงกับอ้าปากค้าง
ส่วนผู้ที่ได้รางวัลที่ 2 คือราชินีนักจัดดอกไม้ซึ่งได้รางวัลมาเกือบทุกปี โดยในปีนี้เธอนำดอกไม้หลากสีสันจำนวนมากมายมาจัดเป็นช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ที่งดงาม กลมกลืน และทำให้ผู้คนหลงใหลทันทีที่ได้เห็น
หลังจากกรรมการประกาศรางวัลสำคัญไป 2 รางวัลและแจ้งว่า รางวัลที่ 1 เป็นการจัดดอกไม้ในรูปแบบของตะกร้าดอกไม้!
ผู้คนในงาน รวมทั้งเพื่อน ๆ ของเด็กน้อยซึ่งตามไปให้กำลังใจ ก็พากันลุ้นจนตัวโก่ง ผลงานตะกร้าดอกไม้ของหนูน้อยหัวใจสีชมพูจะได้รางวัลชนะเลิศหรือไม่ หลายคนรอฟังผลการตัดสินอย่างตื่นเต้น
ครั้นเมื่อถึงเวลาอันควร กรรมการก็ประกาศผลการแข่งขันให้ทุก ๆ คนได้ทราบว่า ผู้ที่ได้รางวัลที่ 1 ก็คือ…ผลงานการจัดตะกร้าดอกไม้ของคุณยายนักจัดดอกไม้รุ่นครูซึ่งทดลองนำดอกไม้ริมทางที่ผู้คนมองว่าไร้ค่ามาจัดเรียงในตะกร้าใบเล็ก ๆ จนเกิดเป็นตะกร้าดอกไม้ที่ดูอ่อนโยและงดงามที่สุด ซึ่งทุกคนต่างก็เห็นว่าเหมาะสมกับรางวัลชนะเลิศอย่างแท้จริง
แม้หนูน้อยหัวใจสีชมพูจะไม่ได้รับรางวัลอะไรเลย แต่เธอกลับอมยิ้มและปรบมือชื่นชมผู้ที่ได้รับรางวัลทุก ๆ คนด้วยความจริงใจ
เพื่อน ๆ ของเด็กน้อยต่างแปลกใจที่เพื่อนของพวกเขาดูมีความสุขมากกว่าผิดหวัง ครั้นเมื่อเพื่อนคนหนึ่งถามเด็กหญิงตัวน้อยว่าทำไมถึงยังยิ้มได้ทั้ง ๆ ที่พ่ายแพ้ เด็กน้อยจึงตอบเพื่อนของเธอว่า “ถึงจะแพ้…แต่การประกวดครั้งนี้ก็ทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรเยอะมากเลยนะ ฉันคิดว่าความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับคือรางวัลที่มีค่าที่สุดซึ่งไม่มีอะไรน่าเสียใจเลยละ”
เมื่อเพื่อน ๆ ได้ฟัง ทุกคนก็ยิ้มและพยักหน้าเห็นด้วย หลังจากนั้น เด็กทั้งหมดก็เดินชมดอกไม้สวย ๆ ในงานอีกครั้ง…ก่อนที่จะผลัดกันหิ้วตะกร้าดอกไม้สีชมพูกลับไปไว้ที่โรงเรียนของพวกเขาด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข
#นิทานนำบุญ
………………….
