ผมเชื่อว่า ไม่มีใครรู้แน่ๆ ว่าชื่อนิทานเรื่อง “เจ้าชายสายลม” มีที่มาจากไหน? คำเฉลยก็คือ เจ้าชายสายลม เป็นชื่อที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชื่ออัลบั้มเพลงของ “ปฐมพร ปฐมพร” ชื่ออัลบั้ม “เจ้าหญิงแห่งดอกไม้” “เจ้าชายแห่งทะเล” (เพลงดังของเขาคือ ไม่ได้มามือเปล่า แต่เอาหัวใจมาฝาก) นิทานเรื่องนี้ จึงเริ่มต้นจากชื่อเรื่อง คือ พอได้ชื่อ แล้วจึงค่อยคิดเนื้อเรื่องหรือแก่นเรื่อง ซึ่งการแต่งนิทานโดยเริ่มจากชื่อเรื่อง มีโอกาสเละได้ง่าย คือ ชื่อน่าสนใจ แต่เนื้อเรื่องไม่สนุก และแก่นเรื่องที่นิทานอยากสื่อสาร ไม่มีคุณค่าอะไรต่อการอ่าน (แต่เรื่องนี้ไม่เละนะ) นิทานเรื่องเจ้าชายสายลม เคยพิมพ์เป็นเล่มกับสำนักพิมพ์ สถาพรบุ๊คส์ โดยได้รับเกียรติจากคุณเฉลิม อัคคะพู มาวาดภาพประกอบให้ ส่วนนิทานที่นำมาลงในเว็บไซต์นี้ เป็นเวอร์ชั่นนิทาน ซึ่งเป็นต้นฉบับก่อนนำไปทำหนังสือภาพ หวังว่าทุกท่านจะชอบนิทานเรื่องนี้นะครับ
นิทานเรื่อง เจ้าชายสายลม
เจ้าชายสายลมเป็นชื่อของเจ้าชายองค์น้อยๆ ผู้ใฝ่ฝันอยากจะเป็นพระราชาที่ดีที่สุดในโลก
วันหนึ่ง เจ้าชายสายลมจึงขออนุญาตพ่อกับแม่ ออกเดินทางไปเรียนรู้โลกกว้าง เพื่อฝึกฝนการช่วยเหลือผู้คนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก
หากเป็นเด็กคนอื่นๆ คุณพ่อคุณแม่คงเป็นห่วงและไม่อยากให้ออกเดินทางไปไหนไกล ๆ ตามลำพังเป็นแน่ แต่สำหรับเจ้าชายสายลมแล้ว ทั้งราชาพายุและราชินีลมรำเพย ผู้ซึ่งเป็นพ่อกับแม่ของเจ้าชายสายลม ต่างสนับสนุนความตั้งใจดีของลูก และมั่นใจว่าเจ้าชายองค์น้อยจะสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย เพราะมีความตั้งใจดีเป็นสิ่งคุ้มครองตน
เจ้าชายสายลมออกเดินตามสายลมจนไปพบหมู่บ้านที่แห้งแล้งแห่งหนึ่ง ชาวบ้านเล่าให้เจ้าชายฟังว่าฝนไม่ตกติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และน้ำหยดสุดท้ายก็เพิ่งหมดไป ชาวบ้านต่างขอร้องให้เจ้าชายสายลมช่วยทำให้ฝนตก แต่น่าเสียดายที่เจ้าสายสายลมเป็นเพียงเจ้าชายแห่งสายลม ซึ่งไม่สามารถสั่งให้ฝนตกลงมาได้ ดังนั้น เจ้าชายสายลมจึงได้แต่ใช้สายลมอ่อนๆ พัดปลอบใจชาวบ้าน และสัญญากับชาวบ้านว่า จะพยายามหาทางช่วยเหลือทุกๆ คนจนสุดความสามารถ
เจ้าชายสายลมให้สายลมพัดพาตัวเขาไปพบกับเทพสายฝน เทพสายฝนเป็นเทพผู้ที่สามารถสั่งให้ฝนตกที่ใดก็ได้ตามใจปรารถนา แต่ด้วยนิสัยเกเรไม่น่ารัก เทพสายฝนจึงมักจะจงใจสั่งให้ฝนตกผิดที่ผิดทางอยู่เสมอ เพราะเทพสายฝนคิดว่า ยิ่งมีคนเดือดร้อนจากฝนมากเท่าไร ตัวของเขาก็จะยิ่งมีความหมายและมีความสำคัญมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เมื่อเจ้าชายสายลมเล่าเรื่องและขอร้องให้เทพสายฝนช่วยเหลือ เทพสายฝนจึงปฏิเสธอย่างไม่ใยดี
เจ้าชายสายลมรู้สึกผิดหวังต่อความใจร้ายของเทพสายฝน หากคนที่มีอำนาจทุกคนคิดเหมือนกับเทพสายฝนกันหมด โลกคงไม่น่าอยู่เป็นแน่ เจ้าชายสายลมจึงตั้งใจว่าจะต้องช่วยเหลือชาวบ้านด้วยกำลังของตัวเอง
ด้วยเหตุนี้ เจ้าชายสายลมจึงลอยตามสายลมไปยังฟากฟ้าเหนือหมู่บ้าน และพยายามควบคุมสายลมให้พัดพาก้อนเมฆน้อยใหญ่มารวมตัวกัน การควบคุมสายลมให้พัดพาก้อนเมฆแต่ละก้อนมารวมตัวกันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเจ้าชายตัวน้อยๆ อย่างเจ้าชายสายลม เจ้าชายสายลมต้องใช้พลังเท่าที่เจ้าชายตัวเล็กๆ อย่างเขาพอจะมีอยู่ ค่อยๆ ต้อนก้อนเมฆทีละก้อน ให้มารวมตัวกันจนกลายเป็นก้อนเมฆที่อ้วนตุ๊ต๊ะ และท้ายที่สุด เจ้าชายสายลมก็ได้ทุ่มพลังจนสุดตัวพุ่งเข้าชนกับก้อนเมฆก้อนใหญ่ เพื่อให้สายฝนโปรยปรายลงมายังหมู่บ้าน
ชาวบ้านต่างดีใจเมื่อฝนตกลงมา แต่การเข้าปะทะกับเมฆก้อนใหญ่ ทำให้เจ้าชายองค์น้อย หมดสติ และร่วงลงจากท้องฟ้าอย่างน่าสงสารที่สุด
แต่โชคยังเข้าข้างเจ้าชายสายลม เพราะเทพสายฝนแอบดูการกระทำของเจ้าชายสายลมมาโดยตลอด เทพสายฝนเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า คนที่มีความหมายและมีความสำคัญจริงๆ คือคนที่ทุ่มเทกำลังอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เทพสายฝนจึงคิดกลับตัวกลับใจและตั้งใจที่จะใช้พลังของตนไปในทางที่ถูกที่ควร ด้วยเหตุนี้ เทพสายฝนจึงรีบเข้าไปประคองร่างน้อยๆ ก่อนที่เจ้าชายสายลมจะร่วงลงสัมผัสกับพื้นเพียงนิดเดียว จากนั้น เทพสายฝนก็พาวีรบุรุษของเขากลับไปพักฟื้นยังปราสาทปุยเมฆอย่างสมเกียรติ
และแล้ว นิทานเรื่องนี้ก็จบลงอย่างมีความสุข
#นิทานนำบุญ
………………………..

One thought on “นิทานก่อนนอน : เจ้าชายสายลม”