เชื่อไหมว่า มีช่วงเวลาหนึ่งในชีวิต ที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) รู้สึกว่า ตัวเองทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง พอมองคนรอบตัว ก็รู้สึกว่าตัวเองช่างแย่เสียจริง ๆ เพราะคนอื่นทำกับข้าวได้ แต่ผมทำไม่ได้ คนอื่นขับรถได้ แต่ผมทำไม่ได้ คนอื่นทำอะไรต่อมิอะไรได้ แต่ผมทำไม่ได้ พอผมคิดว่าตัวเองไม่ได้เรื่อง ก็เลย “เอาแต่คิด” คิดไปคิดมา ทำให้ได้นิทานสอนใจเรื่องนี้ออกมาครับ นิทานเรื่องนี้เป็นนิทานก่อนนอนสั้น ๆ อ่านง่าย ๆ แต่ข้อคิดจากนิทานเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์มากทีเดียว ลองอ่านกันดูนะครับ
นิทานก่อนนอนเรื่อง กระต่ายน้อยเจ้าเอย
กระต่ายน้อยตัวหนึ่งนั่งห่อเหี่ยวหดหู่อยู่ทุกวันเพราะมันรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรแทบไม่เป็นเลย ซึ่งต่างจากเพื่อน ๆ ที่มีความสามารถโดดเด่นคนละอย่างสองอย่าง
เวลาที่อยู่ตามลำพัง กระต่ายน้อยมักคิดว่า มันอยากทำอาหารเก่งเหมือนคุณวัว, อยากแข็งแรงมีพลังเหมือนช้างบึก, อยากร้องเพลงเพราะเหมือนนกจิ๊บ, อยากฉลาดเหมือนเจ้าลิงหัวแหลม กระต่ายน้อยคิดวนไปเวียนมาว่ามันแย่กว่าใคร ๆ และรู้สึกหดหู่ใจแบบไร้ทางออก มันคิดกลับไปกลับมาอยู่เป็นเดือน มันทุกข์มาก ทุกข์จนไม่อาจเขียนบรรยายเป็นคำพูดได้
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เพื่อนสัตว์ตัวอื่น ๆ ก็ยิ่งทำอาหารเก่งขึ้น, แข็งแรงขึ้น, ร้องเพลงเพราะขึ้นและฉลาดมากขึ้นเท่านั้น เพราะสัตว์ทั้งหลายไม่ได้เสียเวลากับการคิดซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ อยู่กับที่ แต่พวกมันลงมือทำและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เพื่อพัฒนาความสามารถที่มีอยู่ให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อกระต่ายน้อยเห็นเพื่อน ๆ ล้ำหน้ามันไปมากกว่าเดิม มันก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ต่ำต้อยแล้วพาลคิดน้อยอกน้อยใจมากขึ้นอีก จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้ากระต่ายรู้สึกอึดอัดจนเกินทนไหว มันจึงแอบไปนั่งร้องไห้ แล้วรำพึงรำพันกับตัวเองถึงเรื่องราวที่ทำให้มันทุกข์ใจอยู่
โชคดีที่นกน้อยเพื่อนของเจ้ากระต่ายกำลังพักผ่อนอยู่บนกิ่งไม้และได้ยินเรื่องราวทั้งหมด มันสงสารกระต่ายน้อยเหลือเกิน มันจึงบินไปเล่าเรื่องให้เพื่อน ๆ ทุกตัวได้รับรู้
เพื่อน ๆ ทั้งหมดไม่อยากให้กระต่ายน้อยจมอยู่กับความท้อแท้หดหู่ พวกมันรู้ว่ากระต่ายน้อยมีข้อดีที่เพื่อนสัตว์ตัวอื่น ๆ ไม่มี แต่กระต่ายน้อยอาจไม่รู้ตัว เพื่อน ๆ จึงหารือกันแล้วตัดสินใจช่วยกระต่ายน้อยให้กลับมายิ้มได้อีกครั้ง
เช้าวันต่อมา คุณวัวชวนกระต่ายน้อยให้ลองไปฝึกทำขนมที่บ้านของมัน พอทำเสร็จ…ช้างบึกก็ขอให้กระต่ายน้อยไปช่วยมันขนของเพื่อตกแต่งสวน ครั้นพอเข้าช่วงบ่าย นกจิ๊บก็บินไปชวนเจ้ากระต่ายให้พักจากงานในสวนแล้วไปฝึกร้องเพลงกับมัน พอตกเย็น ลิงจ๋อก็ชวนกระต่ายน้อยให้ไปอ่านหนังสือเป็นเพื่อนที่ห้องสมุดซึ่งมีแต่หนังสือสนุก ๆ อยู่เต็มไปหมด
เมื่อกระต่ายน้อยได้ลองทำกิจกรรมต่าง ๆ เหมือนกับเพื่อน ๆ มันก็ค่อย ๆ ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองจนทำขนมเก่งขึ้น, แข็งแรงมากกว่าเก่า, ร้องเพลงได้ตรงจังหวะ และมีความรู้เพิ่มพูนขึ้นจนบางเรื่องมันรู้มากกว่าเจ้าลิงหัวแหลมเสียด้วยซ้ำ
ในไม่ช้า กระต่ายน้อยก็เล็งเห็นว่าการปล่อยเวลานั่งคิดนอนคิดวนเวียนไปมานั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่ในทางกลับกัน แค่ลุกขึ้นมาฝึกหัดทำสิ่งที่ทำไม่ได้ โดยค่อย ๆ เรียนรู้ไป แบบนี้ต่างหากที่มีประโยชน์มากกว่า
กระต่ายน้อยขอบคุณเพื่อน ๆ ที่สอนให้มันทำสิ่งต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเพื่อนที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย เมื่อเพื่อน ๆ ของกระต่ายน้อยได้ฟัง พวกมันก็ยิ้ม จากนั้น พวกมันก็บอกกับกระต่ายน้อยว่า “ทุกคนล้วนมีจุดเด่นและมีคุณค่าในตัวเองทั้งนั้น แต่ตัวเราเองอาจมองไม่เห็น สำหรับพวกเราแล้ว….ความน่ารัก, น่าทนุถนอมของเธอคือสิ่งที่พวกเราไม่มี ซึ่งมันทำให้พวกเรามีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ๆ เธอ เธอจึงเป็นเพื่อนที่มีค่ามีความหมายสำหรับพวกเราจริง ๆ นะ”
กระต่ายน้อยยิ้มเขิน ๆ ที่ได้รับคำชมจากเพื่อน ๆ ส่วนเพื่อน ๆ ก็ส่งยิ้มให้กระต่ายน้อย จากนั้น เพื่อนสัตว์ทุกตัวก็เดินเข้าไปกอดและลูบขนนุ่ม ๆ ของกระต่ายน้อยด้วยความรัก
#นิทานนำบุญ
………………….

ขอบคุณที่แต่งนิทานดีๆ สนุกและมีสาระให้อ่านให้ลูกฟังก่อนนอนนะครับ
LikeLike
ขอบคุณเช่นกันนะครับ ที่นิทานเหล่านี้ได้รับเกียรติให้เป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาดี ๆ ของครอบครัวคุณอู๋นะครับ
LikeLike